ยืมเงินดอกรายวัน 2568

ยืมเงินดอกรายวัน 2568

รายได้
ไม่กำหนด
ดอกเบี้ย
ไม่กำหนด
วงเงิน
ไม่กำหนด
ระยะผ่อน
ไม่กำหนด
ขอยืมเงินดอกรายวัน 2568 มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง? | แนะนำช่องทางร้องเรียน (อัพเดทล่าสุด)

สารบัญ

ยืมเงินดอกรายวัน 2568: ความเสี่ยงที่ต้องรู้และทางออกที่ถูกกฎหมาย

ในภาวะที่ต้องเผชิญกับความจำเป็นทางการเงินอย่างเร่งด่วนและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ภัยน้ำท่วมในประเทศไทย การค้นหาบริการยืมเงินดอกรายวัน 2568 มักเป็นทางเลือกที่หลายคนนึกถึง อย่างไรก็ตาม บริการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็นเงินกู้นอกระบบที่มาพร้อมกับความเสี่ยงและภาระดอกเบี้ยมหาศาล 

บทความนี้ทางผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง ชี้ให้เห็นถึงอันตราย และแนะนำทางออกที่ปลอดภัยตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของเงินด่วนทันใจนอกระบบที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายทั้งทรัพย์สินและจิตใจ

1. ทำความเข้าใจกับ “เงินดอกรายวัน“: กับดักที่ทำให้หนี้ไม่จบไม่สิ้น

ยืมเงินรายวัน คือรูปแบบการกู้ยืมที่ผู้กู้ต้องชำระดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยที่เงินต้นยังคงอยู่ครบถ้วน ซึ่งเป็นกลไกที่เรียกว่า “ดอกลอย” หรือ “ดอกเบี้ยลอย” และเป็นลักษณะเด่นของเงินนอกระบบที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของผู้คน

1.1 วิธีคิดดอกเบี้ยรายวัน: ตัวเลขที่สูงเกินจริง

การู้ยืมเงินนอกระบบมักใช้วิธีคิดดอกเบี้ยรายวันแบบคงที่จากเงินต้นทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากสินเชื่อในระบบที่คิดแบบลดต้นลดดอก ทำให้ภาระดอกเบี้ยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่สมเหตุสมผล กลไก “ดอกลอย” นี้เองที่ทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ โดยที่เงินต้นไม่ลดลงเลย ตราบใดที่ยังไม่สามารถหาเงินก้อนมาปิดหนี้ได้ทั้งหมด ผู้กู้ก็จะถูกผูกมัดอยู่กับภาระดอกเบี้ยที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องระวัง:

ลองพิจารณาตัวอย่างการกู้เงินจำนวน 5,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 100 บาท:

รายละเอียด ตัวเลข หมายเหตุ
เงินต้นที่กู้ 5,000 บาท
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อวัน 100 บาท
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อปี 36,500 บาท (100 บาท x 365 วัน)
อัตราดอกเบี้ยต่อปี 730% ต่อปี (36,500 / 5,000) x 100
เพดานดอกเบี้ยตามกฎหมาย 15% ต่อปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 654

ดอกเบี้ย 730% ต่อปีนี้ สูงกว่าเพดานสูงสุดที่กฎหมายกำหนดถึงเกือบ 50 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกู้ยืมเงินนอกระบบเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ ผู้ปล่อยกู้ยังมักใช้กลโกงด้วยการ “หักดอกเบี้ยล่วงหน้า” หรือเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียม” ที่สูงเกินจริง ณ วันที่รับเงินกู้ เช่น กู้ 5,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 4,000 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงให้สูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

1.2 กฎหมายคุ้มครอง: ดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 ได้กำหนดเพดานดอกเบี้ยสูงสุดไว้ที่ร้อยละ 15 ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยเกินกว่านี้ถือเป็นโมฆะทั้งหมด นั่นหมายความว่า หากผู้กู้ถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่า 15% ต่อปี ผู้กู้มีสิทธิที่จะไม่จ่ายดอกเบี้ยส่วนที่เกินนั้น และมีหน้าที่ต้องชำระคืนเพียงเงินต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ เจ้าหนี้นอกระบบมักไม่ยอมรับข้อกฎหมายนี้ และใช้วิธีการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายเพื่อบีบบังคับให้ผู้กู้ชำระหนี้ทั้งหมด

1.3 การเปรียบเทียบ: เงินด่วนนอกระบบบบ vs. สินเชื่อถูกกฎหมาย

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ควรเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการกู้ยืมจากแหล่ง ปล่อยเงินกู้นอกระบบกับการกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมาย:

ลักษณะ สินเชื่อนอกระบบ (เงินดอกรายวัน) สินเชื่อถูกกฎหมาย (เช่น นาโน/พิโกไฟแนนซ์)
ดอกเบี้ย สูงกว่า 15% ต่อปี (อาจสูงถึง 730%) ไม่เกิน 33% – 36% ต่อปี
วิธีคิดดอกเบี้ย “ดอกลอย” (เงินต้นไม่ลด) ลดต้นลดดอก
การทวงหนี้ รุนแรง, ผิดกฎหมาย, คุกคาม สุภาพ, เป็นไปตาม พ.ร.บ. ทวงถามหนี้
ความคุ้มครอง ไม่มี ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
เอกสารที่ต้องใช้ น้อยมาก, เน้นความรวดเร็ว ต้องใช้เอกสารแสดงรายได้และตัวตน

การเปรียบเทียบนี้ตอกย้ำว่า แม้เงินด่วนรายวันนอกระบบจะดูเหมือนเข้าถึงง่าย แต่ความเสี่ยงและภาระหนี้สินที่ตามมานั้นไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

2. อันตรายและข้อควรระวังของการกู้เงินดอกรายวัน

การตัดสินใจกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินรายวันที่ผิดกฎหมายนั้น มีข้อควรระวังและอันตรายร้ายแรงที่อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินเรื้อรังและปัญหาทางกฎหมาย

2.1 วงจรหนี้ที่ไม่มีวันจบ (Debt Trap)

รูปแบบ “ดอกลอย” เป็นกับดักหนี้ที่อันตรายที่สุด เพราะแม้ผู้กู้จะชำระดอกเบี้ยทุกวัน แต่เงินต้นก็ยังคงอยู่เท่าเดิม ทำให้ผู้กู้ต้องหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ และหากวันใดไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ ก็จะถูกปรับหรือถูกทบต้นทบดอก ทำให้หนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหนี้ที่ไม่มีวันหมดสิ้น ผู้กู้ที่เข้าสู่วงจรนี้มักต้องยืมเงินรายวันหมุนเวียนจากเจ้าหนี้รายใหม่เพื่อไปจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้รายเก่า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง

2.2 การทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายและรุนแรง

เมื่อผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้นอกระบบมักใช้วิธีการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายและคุกคาม ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างชัดเจน การทวงหนี้เหล่านี้อาจรวมถึง:

  • การข่มขู่และใช้ความรุนแรง: ทั้งทางวาจาและทางกายภาพต่อผู้กู้และครอบครัว
  • การประจาน: การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้กู้ต่อสาธารณะ หรือการส่งข้อความคุกคามไปยังบุคคลรอบข้าง
  • การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล: การนำข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์ไปใช้ในการข่มขู่

การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิด พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดให้การทวงหนี้ต้องเป็นไปอย่างสุภาพและไม่คุกคาม หากผู้กู้ถูกทวงหนี้ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ได้ทันที

2.3 โทษทางกฎหมายต่อผู้ปล่อยเงินกู้

ผู้ที่ปล่อยเงินกู้รายวันโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การกระทำนี้ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ยอมความไม่ได้ นอกจากนี้ หากมีการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง ข่มขู่ หรือประจาน ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การรู้ข้อกฎหมายเหล่านี้เป็นเกราะป้องกันที่สำคัญสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา ยืมเงิน จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

3. ทางเลือกที่ถูกกฎหมาย: ปลอดภัยและได้รับความคุ้มครอง

แทนที่จะพึ่งพาเงินด่นฉุกเฉินนอกระบบที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ที่ต้องการหาเงินด่วน ควรพิจารณาทางเลือกที่ถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้สินเรื้อรังและปัญหาการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายได้

3.1 สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และนาโนไฟแนนซ์

สำหรับผู้ที่ต้องการยืมเงินฉุกเฉินในวงเงินไม่สูงมาก และไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคารได้ ทางเลือกที่ถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังคือ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งมีเพดานดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวมกันไม่เกิน 33% ต่อปี และ 36% ต่อปี ตามลำดับ การเลือกแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมายเหล่านี้จะช่วยให้ผู้กู้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

4. วิธีตรวจสอบแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมาย: BOT License Check

เพื่อป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของเงินกู้นอกระบบ สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบสถานะของผู้ให้กู้ว่าได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. หรือ BOT) ได้จัดทำระบบตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย

ขั้นตอนการตรวจสอบ BOT License Check :

1.เข้าสู่เว็บไซต์: เข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th) หรือค้นหาคำว่า “BOT License Check”

2.ค้นหาข้อมูล: ใช้ช่องค้นหาเพื่อตรวจสอบชื่อผู้ประกอบการ หรือชื่อแอปพลิเคชันที่ให้บริการยืมเงิน

3.ผลการตรวจสอบ:

  • เจอชื่อ: หมายความว่าผู้ประกอบการรายนั้นถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.
  • ไม่เจอชื่อ: หมายความว่าผู้ประกอบการรายนั้น เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือเป็นบริษัทปล่อยกู้นอกระบบที่ไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมโดยเด็ดขาด

5. รีวิว Pantip: เสียงสะท้อนจากผู้ได้รับผลกระทบ

ประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยใช้บริการเงินกู้นอกระบบ เป็นเครื่องยืนยันถึงอันตรายที่แฝงอยู่ การค้นหาเงินด่วนทันใจนอกระบบ มักนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานที่มากกว่าความสบายใจชั่วคราว

หัวข้อกระทู้: “ชีวิตล้มเพราะหนี้นอกระบบ

  • ความคิดเห็นย่อๆ จากผู้เสียหาย: “เราต้องหากู้เจ้านั้นมาจ่ายเจ้านี้แต่มันมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เราไปอยู่ในจุดที่เริ่มจ่ายดอกต่อวัน วันละ 7000 กว่า ทำแบบนี้มาได้แค่ 1 เดือนก็เริ่มไม่ไหว”

  • ความคิดเห็นจากสมาชิก: “ชีวิตไม่ได้ล้มเพราะหนี้นอกระบบ…ล้มเพราะขาดการบริหารจัดการ และ Mindset ของจขกท.ครับด้วยความเคารพ” / “ปัญหาหลักคือการบริหารจัดการและทัศนคติส่วนตัวมากกว่าหนี้นอกระบบ”

สรุปจากรีวิว: ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเงินกู้รายวันมักประสบปัญหา “ดอกลอย” ที่ทำให้เงินต้นไม่ลดลง และต้องเผชิญกับการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายและคุกคามอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพจิตอย่างร้ายแรง บทเรียนสำคัญคือ การไม่ตกเป็นเหยื่อของความโลภและความจำเป็นชั่วคราว การเลือกทางออกที่ถูกกฎหมายและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเมื่อประสบปัญหาหนี้สิน เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้ท่านหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้อย่างแท้จริง

6. ช่องทางร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเงินกู้นอกระบบ

หากท่านหรือคนรู้จักตกเป็นเหยื่อของพวกปล่อยสินเชื่อนอกระบบ หรือพบเห็นการปล่อยเงินกู้ที่ผิดกฎหมาย ท่านสามารถร้องเรียนและแจ้งเบาะแสได้ทันทีเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย:

ช่องทางร้องเรียน เบอร์โทรศัพท์/เว็บไซต์ รายละเอียด
ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สายด่วน 1359 กระทรวงการคลัง (ในวันและเวลาราชการ)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 191 หรือ 1599 แจ้งความดำเนินคดีอาญาในพื้นที่เกิดเหตุ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) https://tcsd.cib.go.th/home แจ้งความกรณีถูกคุกคามทางออนไลน์

สรุป: ทางออกที่ยั่งยืนไม่ยุ่งกับเงินนอกระบบดอกลอยรายวัน

การตัดสินใจยืมเงินดอกรายวัน 2568 เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยราคาที่แพงเกินจริง และมักนำไปสู่วงจรหนี้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ทางออกที่ยั่งยืนคือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล เช่น สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ก่อนตัดสินใจยืมเงินใดๆ โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ และตรวจสอบสถานะผู้ให้กู้กับ ธปท. เสมอ เพื่อให้ท่านสามารถหลุดพ้นจากความเดือดร้อนทางการเงินได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

บทความไม่สนับสนุนหรือเชิญชวนให้กู้ยืมใดๆ แต่มีความตั้งใจจะให้ข้อมูลความรู้ทางการเงิน 

อัพเดทเดือนพฤศจิกายน 2568

อย่าลืมตรวจแหล่งเงินด่วนนี้

รายได้
ดอกเบี้ย
วงเงิน
ระยะผ่อน
บริการยืมเงิน 3000 ด่วนอาชีพอิสระ 2568 ที่ถูกกฎหมายและสามารถกู้ได้จริง!
รายได้
ไม่กำหนด
ดอกเบี้ย
ไม่กำหนด
วงเงิน
ไม่กำหนด
ระยะผ่อน
ไม่กำหนด
ยืมเงินด่วนตอนนี้ 2568 ควรมีข้อมูลอะไรบ้างที่ควรรู้? | แนะนำสินเชื่อถูกกฎหมาย
Scroll to Top